ข้อดีของการอยู่ในโครงการบ้านที่มีจำนวนหลังน้อย
1. ความสงบไม่พลุกพล่าน
ในโครงการที่มีคนอยู่ร่วมกันเยอะ หลายหลังคาเรือนต่อซอย สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือความพลุกพลาน เพราะเราไม่สามารถควบคุมเวลาการทำงาน หรือการใช้ชีวิตของคนในโครงการเดียวกับเราได้ ยิ่งมีคนเยอะ ก็ยิ่งจะเจอคนที่มีลักษณะการใช้ชีวิตแตกต่างกับเราเยอะ บางคนกลางวันทำงาน กลางคืนพักผ่อน บางคนกลางคืนทำงาน กลางวันพักผ่อน บางคนทำงานบ่ายเลิกงานดึก แม้กระทั่งบางบ้านเป็นครอบครัวที่มีเด็ก เรียนช่วงกลางวัน บ่ายกลับบ้าน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า การเข้าออกโครงการ หรือการใช้ถนนมีความพลุกพล่านเป็นอย่างมาก ต่างกับ โครงการที่มียูนิตน้อย จำนวนยูนิตต่อซอยก็จะน้อยเช่นกัน คนเข้าออกโครงการ หรือใช้ถนนในโครงการ แน่นอนว่าปริมาณนั้นเทียบไม่ได้กับโครงการใหญ่เลย บางวันเราอาจจะไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่ามีการเข้าออก หมดปัญหาการรบกวนจากความพลุกพล่านในโครงการ ได้อยู่บ้านอย่างสงบ ให้บ้านสมกับการเป็นสถานแห่งการพักผ่อน
2. ส่วนกลางไม่โทรม
สำหรับโครงการที่มียูนิตน้อย ย่อมหมายถึงมีครอบครัวที่อยู่อาศัยในโครงการจำนวนน้อย แน่นอนว่าปริมาณอัตราการเข้าใช้ทรัพย์สินส่วนกลาง หรือพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น สโมสร ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องน้ำของโครงการ หรือแม้กระทั่งถนนในโครงการ จะมีปริมาณน้อยกว่าโครงการที่มีครอบครัวอาศัยอยู่ร่วมกันจำนวนมากแน่นอน ข้อดีคือ ทรัพย์สินส่วนกลางเหล่านี้จะเสื่อมช้าลง ในเมื่อมีอัตราการใช้น้อย อัตราการเสื่อม ชำรุดหรือพังเสียหายก็จะน้อย เมื่อทรัพย์สินเสื่อม ชำรุดหรือพังเสียหายน้อย ก็ทำให้นิติบุคคลประหยัดเงินสำหรับการซ่อมแซมไปได้เยอะ สามารถนำเงินไปใช้เพิ่มเติมความสะดวกสบายส่วนอื่นให้กับลูกบ้านได้อีก
3. ลดปัญหากับเพื่อนบ้าน
สังคมที่มีการอยู่ร่วมกันหมู่มากอย่างโครงการที่มีเป็นร้อยหลังคาเรือน เนื่องจากต่างคนต่างครอบครัวต่างที่มา และด้วยความที่ชุมชนขนาดใหญ่ ทำให้อาจจะไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ไม่เกิดความผูกพันหรือเห็นใจกันเพราะเห็นว่าเป็นคนอื่น ก็ย่อมจะเกิดปัญหากระทบทั่งกัน ตัวอย่างเช่นการทิ้งขยะ การจอดรถ หรือแม้กระทั่งการแย่งกันใช้พื้นที่ส่วนกลาง จากเรื่องเล็กน้อยสามารถนำไปสู่การทะเลาะผิดใจกันได้ง่าย แต่สำหรับโครงการที่ยูนิตในโครงการน้อย ก็จะมีคนอยู่ร่วมกันเป็นสังคมขนาดเล็ก ด้วยจำนวนครอบครัวที่น้อย จะทำให้ผู้อยู่อาศัยแต่ละบ้าน รู้จักหน้าคร่าตา พอจะจดจำกันได้และเมื่อผ่านระยะเวลาไปช่วงหนึ่ง จะทำให้เกิดความสนิทสนมกันมากขึ้น เมื่อมีเหตุประการใดที่อาจจะทำให้เกิดปัญหา มักก็จะพยายามหลีกเลี่ยง มีความเกรงใจกันมากขึ้น และอยากอยู่ร่วมกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย
4. นิติบุคคล ดูแลบ้านได้อย่างใกล้ชิด
นิติบุคคลถือเป็นกลุ่มคนสำคัญที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย คอยอำนวยความสะดวก รวมถึงดูแลความปลอดภัย ให้กับคนในโครงการ โครงการที่มียูนิตน้อย มีผู้อาศัยในโครงการน้อย จะทำให้นิติบุคคล รวมถึงพนักงานในส่วนงานบริการอื่นๆที่เกี่ยวข้องสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง การที่เจ้าหน้านิติบุคคลสามารถจดจำรายละเอียดของผู้อาศัยในโครงการได้ทุกครอบครัว จะทำให้ลูกบ้านได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น หากมีเหตุผิดปกติ หรือมีเหตุน่าสงสัย เจ้าหน้าที่นิติบุคคลสามารถติดต่อสอบถาม หรือแจ้งลูกบ้านได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเวลาในการหาข้อมูลลูกบ้านจากเอกสาร นอกจากนี้ หากมีปัญหาใดๆเกิดขึ้นในบ้าน หรือในโครงการ ทางเจ้าหน้าที่นิติ สามารถสั่งการให้ผู้ดูแลติดต่อลูกบ้านและเข้าแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน จะเห็นได้ว่า โครงการใหญ่ที่มีบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือน นิติบุคคล ไม่สามารถดูแลอย่างทั่วถึงและรวดเร็วแน่นอน
5. การขายต่อในอนาคต
โครงการที่มีจำนวนยูนิตที่น้อยมีโอกาสที่จะสามารถขายต่อได้ในราคาที่ดีได้ง่ายกว่าเนื่องจากจำนวนเพื่อนบ้านที่จะปล่อยเวลาเดียวกันมีโอกาสที่จะน้อยกว่า เช่น สมมติมีเพื่อนบ้านที่จะปล่อยในช่วงเวลานี้ 5% ของจำนวน ยูนิตทั้งหมด ถ้าโครงการมี 20 ยูนิต ก็มีคนปล่อย 1 คน แต่ถ้ามี 100 ยูนิต ก็มีคนปล่อย 5 คน ซึ่ง เพื่อนบ้านทั้ง 5 คนนี้ต้องมาแข่งและตัดราคากันเอง เนื่องจากเป็นคู่แข่งขันทางตรง
#TheShelterHome
#บ้านเดี่ยว3ชั้น
#ติดถนนเพชรเกษม
#ทำเลดีที่สุดในฝั่งธน