มอเตอร์เวย์”นครปฐม-ชะอำ | The Shelter

 มอเตอร์เวย์”นครปฐม-ชะอำ

          สำหรับบทความนี้ เดอะเชลเตอร์ บ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่เพชรเกษม สาย 5 ขอเสนอ เรื่อง มอเตอร์เวย์”นครปฐม-ชะอำ  ซึ่งบ้าน เดอะ เชลเตอร์ ( The Shelter ) ก็เป็นหนึ่งในโครงการที่ติดถนนใหญ่ ทำเลดีที่สุดติดถนนเพชรเกษม และใกล้นครปฐม ซึ่งได้ประโยชน์ จากการพัฒนามอเตอร์เวย์ สายนี้
กรมทางหลวง ฟังเสียงนักลงทุนทบทวนมอเตอร์เวย์”นครปฐม-ชะอำ”109 กม.ปรับรูปแบบลดค่าก่อสร้าง กว่า 3,200 ล้านบาท (4.3% ) เหลือ 7.57 หมื่นล้าน
แบ่งสร้าง 3 ช่วง ชงเปิดประมูลPPP ในปี 66
 
          นายธนศักดิ์ วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง  (มอเตอร์เวย์) กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 65 กรมทางหลวง ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชนและนักลงทุน (Market Sounding) ในการทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมในการให้เอกชนร่วมลงทุน หรือ PPP โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 8 สายนครปฐม-ชะอำ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 160 คน ประกอบด้วย สถาบันการเงิน ที่ปรึกษาการร่วมลงทุน ผู้แทนจากกลุ่มผู้รับเหมา หน่วยงานราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ภาคเอกชน รวมถึงหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย 
สำหรับโครงการ การให้เอกชนร่วมลงทุน ( PPP ) มอเตอร์เวย์ สาย 8 (นครปฐม-ชะอำ) ปัจจุบันได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียด และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้วเสร็จ รวมถึงคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ได้เคยเห็นชอบโครงการ โดยอนุมัติรูปแบบทางหลวงสัมปทาน ด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP - Net Cost

          ซึ่งการทบทวนผลการศึกษาได้เสนอให้ดำเนินการปรับปรุงรูปแบบโครงการในส่วนต่าง ๆ เพื่อลดค่าลงทุนโครงการ รวมถึงผลกระทบต่อประชาชน เช่น การปรับรูปแบบโครงการจากถนนระดับดินบนเข็มเป็นรูปแบบสะพานบก ซึ่งช่วยลดผลกระทบทางด้านการเวนคืนที่ดินของประชาชน ลดค่าก่อสร้าง การนำระบบ M-Flow มาใช้กับโครงการแทนการจ่ายเงินที่พนักงาน และลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณด่านจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ให้ผู้ใช้ทาง เป็นต้น ซึ่งสามารถลดมูลค่าก่อสร้างได้กว่า 3,200 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 4.3% เมื่อเทียบกับการศึกษาครั้งที่ผ่านมา รวมถึงมีแนวคิดที่จะทำการก่อสร้างเป็นช่วง เพื่อให้โครงการสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองต่อความต้องการในการเดินทางและขนส่งสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

          สำหรับมอเตอร์เวย์สายนครปฐม-ชะอำ (M8) ระยะทาง 109 กม.วงเงินลงทุน  79,006 ล้านบาท เดิมบอร์ด PPP อนุมัติแล้ว  ลงทุนรูปแบบ PPP Net  Cost  แต่เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ จ.เพชรบุรีคัดค้านการก่อสร้าง จึงต้องทบทวนผลการศึกษาโครงการใหม่    โดยปรับลดวงเงินลงทุนโครงการรวมเหลือ 75,752 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเวนคืนที่ดิน 16,095 ล้านบาท ค่างานโยธา 56,747 ล้านบาท ค่างานระบบ 2,910 ล้านบาท

          จุดเริ่มต้นโครงการต่อเชื่อมกับมอเตอร์เวย์ (M81) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่บริเวณทางแยกต่างระดับนครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และมีจุดสิ้นสุดโครงการเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) บริเวณ กม.188 อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ระยะทาง 109 กิโลเมตร (กม.) แบ่งเป็น 3 ช่วงดังนี้

1.ช่วงนครชัยศรี-ตลาดจินดา ระยะทาง 9.3 กม. จุดเริ่มต้นโครงการต่อเชื่อมกับ M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่บริเวณทางแยกต่างระดับนครชัยศรี อ.นครชัยศรี และจุดสิ้นสุดเชื่อมต่อมายังทางหลวงหมายเลข 375 อ.สามพราน จ.นครปฐม

2.ช่วงตลาดจินดา-ปากท่อ ระยะทาง 51.8 กม. จุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับช่วงที่ 1 บริเวณทางหลวงหมายเลข 375 อ.สามพราน และสิ้นสุดเชื่อมต่อมายังทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนธนบุรี-ปากท่อ) อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

3.ช่วงปากท่อ-ชะอำ ระยะทาง 48 กม. จุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับช่วงที่ 2 บริเวณทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนธนบุรี-ปากท่อ) อ.ปากท่อ สิ้นสุดเชื่อมต่อมายังถนนเพชรเกษม อ.ท่ายาง

มีจุดเข้า-ออก 8 แห่ง ประกอบด้วย

1.จุดเข้า-ออกนครชัยศรี เชื่อมกับถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 338 และ M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี / 2.จุดเข้า-ออก ตลาดจินดา เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 375/ 3.จุดเข้า-ออก บางแพ เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 325 /4.จุดเข้า-ออก ราชบุรี เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 376
5.จุดเข้า-ออก วัดเพลง เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 3088 / 6.จุดเข้า-ออก ปากท่อ เชื่อมกับทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม2)/ 7.จุดเข้า-ออก เขาย้อย เชื่อมกับถนนเพชรเกษม/ 8.จุดเข้า-ออก ท่ายาง เชื่อมกับถนนเพชรเกษม และ M8 สายชะอำ-ชุมพร

          โดยมีที่พักริมทาง (Rest Area) 5 แห่ง ได้แก่ 1.บริเวณนครชัยศรี 2.บ้านแพ้ว 3.ราชบุรี 4.เขาย้อย และ 5.บ้านลาด
โครงการมีระยะเวลาสัญญา 34 ปี (เวนคืนและก่อสร้าง 4 ปี ดำเนินงานและบำรุงรักษา 30ปี) คาดการณ์ปริมาณจราจรปีแรกเปิดให้บริการประมาณ 46,306 คันต่อวัน จัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมประมาณ 1,725 ล้านบาทต่อปี และในปีที่ 30 ปริมาณจราจรเข้าระบบเพิ่มขึ้น เป็นประมาณ 137,606 คันต่อวัน จัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมผ่านทางเพิ่มขึ้นเป็น 7,965 ล้านบาทต่อปี


          โดยจะสรุปรายงานศึกษาการให้เอกชนร่วมลงทุนฯเสร็จในปี2565 เสนอขออนุมัติโครงการ และคัดเลือกเอกชนผู้เข้าร่วมลงทุน ปี 2566 เวนคืนที่ดินและ ก่อสร้างช่วงปี 2566-2569 และเปิดบริการในปี 2570
 
ขอนำเสนอ เดอะเชลเตอร์ (The Shelter) ขอนำเสนอบ้านเดี่ยว/ โฮมออฟฟิศ ทำเลทอง ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอยสูงสุดในย่านเพชรเกษม-พุทธมณฑลสาย 5  เริ่ม 10-20 ล้าน เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจและการพักอาศัย ใกล้ย่านธุรกิจชั่นนำมากมาย หากสนใจสามารถเยี่ยมชมโครงการทุกวัน
 
#โครงการเชลเตอร์
#บ้านเดี่ยวและโฮมออฟฟิศ
#ติดถนนใหญ่เพชรเกษม
#ทำเลดีที่สุดในย่านนี้